ชื่อโครงการ
การวิจัยเพื่อพัฒนาพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำในพื้นที่จังหวัดชัยนาทคำสำคัญ
การพัฒนาพื้นที่,โมเดลแก้จน,พื้นที่ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาความยากจนบทคัดย่อ
โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท มีเป้าหมายหลักเพื่อพัฒนากระบวนการและตัวแบบการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จ โดยสนับสนุนการจัดทำระบบข้อมูลความยากจน การติดตามการช่วยเหลือในการแก้ปัญหาความยากจน และการพัฒนาตัวแบบปฏิบัติการแก้จน ด้วยการออกแบบกลไก กระบวนการวิจัย และเครื่องมือในการพัฒนา เชิงพื้นที่สนับสนุนการทำงานช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความยากจน ติดตาม วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลครัวเรือนคนจน และหนุนเสริมกลไกพัฒนาเชิงพื้นที่ บูรณาการความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน พร้อมจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย โดยใช้หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research : PAR) จากทุกภาคส่วนทั้งส่วนราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และชุมชน โดยมีผลการดำเนินงานดังนี้
1) ค้นหาและสอบทานครัวเรือนคนจนเป้าหมาย จำนวน 4,601 ครัวเรือน มาจากฐานข้อมูลจากระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform – TPMAP) จำนวน 2,094 ครัวเรือน และ Add on ครัวเรือนคนจนจากการชี้เป้าโดยชุมชนที่เห็นร่วมกันว่ามีสภาวะความเป็นอยู่ยากลำบากจริง จำนวน 2,507 ครัวเรือน ลักษณะของครัวเรือนเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นครัวเรือนอยู่ยาก “ไม่มีรายได้ แต่ถ้ามีรายได้ก็ไม่สม่ำเสมอ ไม่มีที่ดินทำกิน หรือมีที่ดินทำกินก็ไม่ใช่ของตนเอง มีปัญหาการเข้าถึงแหล่งน้ำทำการเกษตร ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพใช้แรงงาน ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในการดำรงชีพหรือสร้างรายได้ และยังไม่ได้ใช้อุปกรณ์สารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการดำรงชีพ” มีทุนการดำรงชีพอย่างยั่งยืน 5 มิติ (Sustainable Livelihoods Framework: SLF) ด้านสังคมต่ำที่สุด (1.36) ครัวเรือนเป้าหมายส่วนใหญ่ ยังไม่มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการชุมชน ยังไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรม กลุ่มทางสังคม แต่เริ่มมีแนวทางหรือกฎระเบียบที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของชุมชนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น กติกา ธรรมนูญชุมชน การบริหารจัดการ องค์กร กลุ่ม หรือสถาบันในชุมชนขึ้นอยู่กับผู้นำหลัก และมีทุนทางกายภาพสูงที่สุด (2.83) ส่วนใหญ่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง สภาพมั่นคงแข็งแรงปานกลาง ถูกสุขลักษณะ มีสาธารณูปโภคพื้นฐาน ไฟฟ้า ประปา แต่บางครัวเรือนเข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ต
2) กระบวนการค้นหาและสอบทานที่มีคุณภาพ ด้วยการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ ดังนี้
(1) สร้างกลไกความร่วมมือในระดับพื้นที่ทั้งในส่วนของจังหวัด และอำเภอ
(2) พัฒนาทีมสำรวจและสอบทานข้อมูล
(3) สำรวจ และสอบทานข้อมูลครัวเรือนเป้าหมาย
(4) ติดตาม และตรวจสอบ ความถูกต้อง ครบถ้วน และเชื่อถือได้ของข้อมูล ทำให้ได้ “ข้อมูลที่มีคุณภาพ”
3) เกิดการส่งต่อข้อมูลความช่วยเหลือ 2 ลักษณะ ดังนี้
(1) การส่งต่อข้อมูลความต้องการไปตามภารกิจของหน่วยงาน
(2) พัฒนาโครงการบรรจุในแผนงาน/โครงการของหน่วยงานเพื่อดำเนินการช่วยเหลือครัวเรือนคนจนเป้าหมาย ทั้งระดับเทศบาล ระดับอำเภอ และจังหวัด
4) เกิดกลไกดำเนินงานแก้ไขปัญหาความยากจน ได้แก่ นักจัดการข้อมูลชุมชน และภาคีเครือข่ายความร่วมมือแก้ไขปัญหาความยากจน ที่ร่วมกันดำเนินการ
5) ครัวเรือนคนจนมีความต้องการ 2 ลักษณะสำคัญ คือ
(1) อยู่ได้ : การดำรงชีพขั้นพื้นฐานที่มีคุณภาพ คือ มีอาหารที่เพียงพอ ที่อยู่อาศัยที่แข็งแรง และการเข้าถึงสวัสดิการรัฐตามสิทธิ สวัสดิการชุมชน
(2) อยู่ดี : โอกาสในการพัฒนาตนเอง ในด้านการมีงานทำ ทักษะอาชีพ รายได้
6) เกิดปฏิบัติการแก้ไขปัญหาความยากจน จากการใช้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่
(1) ข้อมูลทุนศักยภาพคนจน (Sustainable livelihoods)
(2) ข้อมูลศักยภาพชุมชนและบริบทความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ ที่เอื้อต่อ การพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหา นำมาสร้างการเรียนรู้ร่วมกันในเวทีวิเคราะห์โอกาส และพัฒนาแนวทาง แก้จน ซึ่งเป็นพื้นที่เรียนรู้ร่วมของคนจน ผู้นำชุมชน หน่วยงานในท้องถิ่น ทำให้เข้าใจสถานการณ์และพัฒนาทางออกและร่วมมือแก้ไขปัญหาความยากจน ที่มีนักจัดการข้อมูลชุมชนเป็นผู้สร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันในเวที นำไปสู่การวิเคราะห์ทางเลือกร่วมกันเพื่อตัดสินใจออกแบบโมเดลแก้จนบนฐานทุนชุมชนและศักยภาพคนจน ดังนี้
(1) นวัตกรรมแก้จน “แพะเงินล้าน” ขับเคลื่อนโดยนักจัดการข้อมูลชุมชน ทำให้เกิดการจัดตั้ง “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มพัฒนาอาชีพโพงาม” โดยชุมชนได้ใช้ศักยภาพของผู้นำชุมชน ทุนทรัพยากร และความเข้มแข็งของกลุ่มในชุมชน ซึ่งเป็นจุดแข็งมาขับเคลื่อนให้เกิดการประกอบการ ทำให้เกิดตัวแบบสำคัญในการแก้ปัญหาความยากจน ดังนี้ 1. การออกแบบงานที่อยู่บนฐานการเชื่อมโยงกับข้อมูลทุนการดำรงชีพ และทุนบริบทชุมชน 2. เกิดกิจการที่คนจนร่วมเป็นเจ้าของและได้รับประโยชน์ในเชิงการมีรายได้ที่เกิดจากการทำงาน/มีงานทำ 3. มีการประยุกต์ใช้องค์ความรู้จากงานวิจัยมาสู่การผลิตจริงที่ต่อยอดเป็นธุรกิจ/วิสาหกิจได้ 4. ผลผลิตมีศักยภาพในการจำหน่ายได้ทั้งตลาดทั้งภายในและภายนอกพื้นที่ มีครัวเรือนเป้าหมายเข้าร่วมจำนวน 149 ครัวเรือน
(2) การบริหารจัดการแปลงรวม สำหรับครัวเรือนที่ไม่มีที่ดินทำกิน และมีทักษะด้านการเกษตร ใช้พื้นที่รวมในการเพาะปลูกเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร สร้างรายได้ ภายใต้แนวคิด “การเกื้อกูลจากชุมชนผ่านครัวเรือน รอการพัฒนาสู่ครัวเรือนพึ่งพิง”
(3) กองทุนข้าวสาร สำหรับครัวเรือนพึ่งพิง เพื่อให้มีข้าวสารเพียงพอที่จะบริโภค และสามารถนำเงินสวัสดิการไปใช้ในการดำรงชีพด้านอื่นให้เพียงพอและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น ซื้อกับข้าว ซื้อยา เป็นค่ารถไปหาหมอ
(4) กองทุนแก้จน ทำหน้าที่เป็น “ไมโครไฟแนนซ์ (Microfinance)” สำหรับครัวเรือนรอการพัฒนา โดยนำผลกำไรจากการประกอบการของกลุ่มวิสาหกิจแก้จนมาบริหารจัดการร่วม ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อต่อยอดพัฒนาอาชีพ
(5) เครือข่าย ช่าง D Home: คลังแรงงานแก้จน สำหรับครัวเรือนประกอบการ ด้วยการ Matching ครัวเรือนที่มีทักษะด้านช่างและได้รับการพัฒนาทักษะ(Up Skill) การเป็นผู้ประกอบ กับครัวเรือนที่ต้องการช่างในการซ่อมแซมบ้าน รวมถึงครัวเรือนคนจนที่ได้รับงบประมาณค่าวัสดุซ่อมบ้านจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน แต่ยังขาดแรงงาน
7)ลักษณะตัวแบบแก้จนที่จะทำให้คนจนมีส่วนร่วม และสามารถพัฒนาตนเองได้ คือ
1) กิจกรรมที่ดำเนินการอยู่บนฐานการเชื่อมโยงกับข้อมูลทุนการดำรงชีพ และทุนบริบทชุมชน
2) เป็นกิจกรรมที่คนจนร่วมเป็นเจ้าของและได้รับประโยชน์ในเชิงการมีรายได้ที่เกิดจากการทำงาน/มีงานทำ
3) มีการประยุกต์ใช้องค์ความรู้จากงานวิจัยมาสู่การผลิตจริงที่ต่อยอดเป็นธุรกิจ/วิสาหกิจได้
4) ผลผลิตมีศักยภาพในการจำหน่ายได้ทั้งตลาดทั้งภายในและภายนอกพื้นที่
8)การเชื่อมโยงการปฏิบัติการแก้จนกับแผนในระดับท้องถิ่น ต้องเริ่มจากการเห็นชอบร่วมกันของคนในชุมชนพัฒนาเป็นแผนชุมชน และแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะช่วยให้โครงการได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านงบประมาณ และการต่อยอดพัฒนา ทำให้การปฏิบัติการมีความยั่งยืนในระยะยาว ดังนั้น การพัฒนารูปแบบการแก้ไขปัญหาความยากจนบนศักยภาพและฐานทุนครัวเรือน คนจนและชุมชนจึงมุ่งเน้นไปที่การขยายพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อการกระจายโอกาสการมีงานทำ และการสร้างรายได้ของครัวเรือนคนจน และพัฒนานวัตกรรมแก้จนทั้งในด้านการดำรงชีพขั้นพื้นฐาน และการประกอบการ ยกระดับทุนมนุษย์ ทุนทางเศรษฐกิจ ทางทางสังคม ของครัวเรือนคนจนเป้าหมาย ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้ มีงานทำ
Title
Area Based Development Research for Comprehensive Poverty Solution : Case Study in Chainat ProvinceKeywords
Area Based Development,Operating Model,Practical Poverty PlatformAbstract
Research projects to develop areas to solve poverty problems comprehensively and precisely. in the area of Chainat Province Its main goal is to develop processes and models for inclusive poverty alleviation. by supporting the establishment of a poverty information system Monitoring assistance to alleviate poverty and the development of an action model to solve poverty with mechanism design research process and development tools Geographical support for poverty alleviation work, monitoring, analyzing and synthesizing poor household data. and support the spatial development mechanism Integrate cooperation to tackle poverty ready to make policy recommendations by using participatory action research principles (Participatory Action Research: PAR) from all sectors, including government agencies, private sector, civil society and communities, with the following results:
1) Search and review the targeted poor households of 4,601 households from the database from the Thai People Map and Analytics Platform (TPMAP) of 2,094 households and add on the poor households from the targeted by 2,507 households in the community agreed that there were actually difficult living conditions. Most of the targeted households were in difficulty. no arable land or having land to cultivate is not their own There is a problem accessing water sources for farming. Most of them are engaged in manual labor. The natural resources have not been utilized for living or generating income. and do not use information and communication devices for their livelihoods” had the lowest level of sustainable livelihoods framework (SLF) in social aspects (1.36). Most of the targeted households Not yet involved in community management Havent joined the activity yet social group but began to have guidelines or rules arising from community participation in various forms such as rules, community statutes, management, organizations, groups or institutions in the community depending on the main leaders and had the highest physical capital (2.83). Most of them had their own residence. Moderately stable, hygienic, with basic utilities, electricity and water supply, but some households do not have access to the Internet.
2) Quality Search and Review Process With participation from various sectors in the area as follows: (1) Create cooperation mechanisms at the local level in both provinces and districts (2) Develop a survey and review team (3) Survey and review target household data (4) Follow up and verify the accuracy, completeness and credibility of information resulting in “quality information”.
3) There are 2 forms of transferring assistance information as follows: (1) transferring information on needs according to the mission of the agency (2) developing a project to include in the agencys work plan/project to help target poor households both at the municipal, district and provincial levels
4) There is a mechanism to solve poverty problems, namely community information managers. and partners in the cooperation network to solve poverty problems jointly operated
5) Poor households have 2 main needs, namely (1) being able to survive: having a quality basic livelihood, i.e. having sufficient food; strong housing and access to government welfare according to their rights community welfare (2) You are good: an opportunity for self-improvement in terms of employment, occupational skills, income
6) Poverty Alleviation Actions From the use of important data, i.e. (1) information on potential poor people (Sustainable livelihoods) (2) information on community potential and the context of change in the area conducive to Developing solutions to problems brought to create learning together in the opportunity analysis stage and develop guidelines Solving Poverty, which is a shared learning area for the poor, community leaders, and local agencies. Make them understand the situation and develop solutions and cooperate to solve poverty problems. with community information managers creating a collaborative learning process in the arena This leads to a joint analysis of alternatives to decide on the design of a model to solve poverty based on community capital and the potential of the poor as follows: (1) Innovation to solve poverty “Million Dollar Goat” is powered by community data managers. cause the establishment “Pho Ngam Occupational Development Community Enterprise” where the community uses the potential of community leaders, capital, resources, and the strength of the group in the community. which is a strength that drives entrepreneurship Resulting in an important model for solving poverty problems as follows: 1. Job design based on linkage with livelihood data. and capital in the community context. 2. The establishment of an enterprise co-owned by the poor and benefited in terms of income from work/employment. 3. Knowledge gained from research has been applied to actual production. can be further developed into a business/enterprise. 4. The products have the potential to be sold in both internal and external markets. There were 149 targeted households participating. (2) Integrated plot management. for households without land to cultivate and have skills in agriculture Use the total area for cultivation to create food security and generate income under the concept of “community support through households. waiting to be developed into a dependent household” (3) Rice Fund for dependent households in order to have enough rice to be consumed and can use the welfare money to use in other aspects of living that are sufficient and have a better quality of life, such as buying food, buying medicine, or traveling to the doctor. (4) Poverty Relief Fund serves as “Microfinance (Microfinance)” for households awaiting development By bringing profits from the operations of the group of enterprises to solve until they are jointly managed To be able to access funding sources to further develop careers. (5) Network Technician D Home: labor depot to solve poverty For entrepreneurial households by matching households with mechanic skills and receiving skills development (Up Skill) to be an entrepreneur. with households that need a mechanic to repair the house Including poor households that received a budget for materials for repairing houses from the community organization development institute. but also lack of labor
7) Characteristics of a poor solve model that will allow the poor to participate. and able to develop themselves. 1) Activities carried out based on linkage with living capital data 2) It is an activity that the poor co-own and receive benefits in terms of earning income from work/employment; 3) Knowledge gained from research is applied to actual production. 4) The products have the potential to be sold in both internal and external markets.
8) Linking remedial actions to local plans Must start from the mutual consent of the people in the community to develop a community plan. and development plans of local government organizations It will help the project to receive continuous support in terms of budget. and further development Make operations sustainable in the long run Therefore, the development of poverty alleviation models based on the potential and household capital base Poor people and communities therefore focus on expanding their operational areas for the distribution of employment opportunities. and income generation of poor households and develop innovations to solve poverty both in terms of basic living and entrepreneurship enhance human capital The economic and social capital of the target poor households. To have a good quality of life, have income, have a job