การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยนวัตกรรม และการสร้างสรรค์ชุมชนพึ่งพาตนเอง ด้วยจัดทำแผนและประสานแผนพัฒนาชุมชน/ ตำบล ประสานสู่แผนพัฒนาพื้นที่ในระดับจังหวัด One Plan

cover

สถิติการเปิดชม ครั้ง
สถิติการดาวน์โหลด 22 ครั้ง

ดาวน์โหลดเอกสารฉบับเต็ม


เลขที่สัญญา A13F630057
นักวิจัย ดร. คมศักดิ์ หารไชย
หน่วยงาน มหาวิทยาลัยนครพนม
ทุนวิจัย โครงการ Flagship ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
ปีงบประมาณ 2563
แผนงานหลัก ชุมชนนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
แพลตฟอร์ม Platform 4 การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ำ
โปรแกรม P13 นวัตกรรมสำหรับเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนนวัตกรรม
Flagship FS 20: ชุมชนนวัตกรรม
วันที่เริ่มต้น 15 พฤษภาคม 2020
วันที่สิ้นสุด 14 พฤษภาคม 2021
ระยะเวลา 1 ปี
สถานที่ทำวิจัย นครพนม

ชื่อโครงการ

การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยนวัตกรรม และการสร้างสรรค์ชุมชนพึ่งพาตนเอง ด้วยจัดทำแผนและประสานแผนพัฒนาชุมชน/ ตำบล ประสานสู่แผนพัฒนาพื้นที่ในระดับจังหวัด One Plan

คำสำคัญ

แผนพัฒนาตำบล,เศรษฐกิจฐานราก,การประสานแผนพัฒนา,นวัตกรรม

บทคัดย่อ

จังหวัดนครพนมเป็นหนึ่งใน 7 จังหวัด ที่มีมิติทั้งความยากจนเรื้อรัง (จังหวัดที่ติดลำดับ 1 ใน 10 จังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนสูงที่สุดต่อเนื่อง หลายปี) และความยากจนรุนแรง (จังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนสูงติดลำดับ 1 ใน 10 จังหวัดในปี 2560)ได้แก่ปัตตานี นราธิวาส แม่ฮ่องสอน กาฬสินธุ์ นครพนม ตาก และ บุรีรัมย์ (วรรณี วรรณชาติ, 2561) ปัจจุบันจังหวัดนครพนมมีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั้งสิ้น 168,734 รายจากที่ลงทะเบียนทั้งสิ้น 225,223 ราย โดยคิดเป็นร้อยละ 33.64 ของประชากรที่อาศัยจริงในจังหวัดนครพนม (คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการจังหวัดนครพนม, 2562) ในแผนพัฒนาจังหวัดนครพนม พ.ศ. 2561-2564 (รอบปี 2562) (จังหวัดนครพนม, 2561) ได้สรุปปัญหาความยากจนในจังหวัดนครพนมนั้นมี 4 สาเหตุหลัก คือ

  1. ผลผลิตทางการเกษตรเฉลี่ยต่อไร่ค่อนข้างต่ำ เนื่องจาก ขาดการบำรุงดิน อย่างเหมาะสมหรือระบบชลประทานที่ยังไม่ทั่วถึงในหลายพื้นที่ ทำให้พื้นที่ขาดความอุดมสมบูรณ์
  2.  ขาดอุตสาหกรรมแปรรูปเพื่อรองรับผลผลิตทางการเกษตร ทั้งในรูปแบบขนาดกลาง และขนาดเล็ก
  3.  ปัญหาโครงสร้างหนี้ให้ เกษตรกรที่มีค่าใช้จ่ายด้านอุปโภค บริโภคในครัวเรือนครัวเรือนสูงถึงร้อยละ 56
  4. บริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรหรือระบบชลประทานในจังหวัดอย่างเป็นระบบ และทั่วถึง ตลอดจนส่งเสริมและเพิ่มแรงจูงใจให้เกษตรกรเพาะปลูกอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้นหน่วยงานภาคภาครัฐในจังหวัดนครพนมได้พยายามในการขจัดปัญหาความยากจนด้วยการจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปี

ในส่วนของงบบูรณาการจังหวัดและแผนพัฒนาจังหวัดรอบ 5 ปี พ.ศ. 2561 – 2564 ด้วยการนำโมเดลไทยแลนด์ 4.0 มาปรับใช้เพื่อยกระดับรายได้ของประชาชน แม้ว่าหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดนครพนมจะดำเนินการพัฒนาและแก้ไขปัญหาความยากจนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังปรากฏปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานในด้านต่างๆ เช่น

  1. ปัญหาเชิงยุทธศาสตร์ในด้านเศรษฐกิจ เช่น แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดยังไม่ได้มาตรฐาน สำหรับการรองรับนักท่องเที่ยว ปัญหาการยกระดับมาตรฐานการแปรรูปสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน การตลาดสินค้าท้องถิ่นและการลงทุนในจังหวัดยังขยายตัวช้า ด้านสังคมและความมั่นคง เช่น ขาดแคลนแพทย์ ปัญหาด้านการศึกษา ตลอดจนเรื่องความมั่นคงชายแดน ยังเป็นอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาของจังหวัด
  2. ปัญหาด้าน การวางแผนพัฒนาจังหวัดที่มีการวางแผน ครอบคลุมมิติด้าน เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการ

แต่ในบางความต้องการของชุมชนในการพัฒนาอาชีพ หรือการแก้ปัญหา โดยเฉพาะในกลุ่มอาชีพ กลุ่มสัมมนาชีพ หรือเศรษฐกิจฐานรากที่ไม่ได้อยู่ในรายการพืชเศรษฐกิจสำคัญ หรือสินค้า และสินค้า OTOP สำคัญของจังหวัดมักจะไม่ถูกกล่าวถึง หรือส่งต่อความสำคัญไปยังแผนพัฒนาจังหวัด ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจฐานรากเหล่านั้นจะมีศักยภาพในการพัฒนาสูงก็ตาม ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดจากการขาดการเข้าถึงและส่งต่อศักยภาพชุมชน กลุ่มอาชีพ กลุ่มสัมมาชีพหรือเศรษฐกิจฐานราก มายังผู้จัดทำแผนในระดับนโยบาย ทั้งนี้ทางกลุ่มผู้วิจัยเล็งเห็นถึงปัญหา และความจำเป็นอย่างเร่งด่วนต่อการพัฒนาเพื่อขจัดปัญหาความยากจนเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ยกระดับรายได้ และลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน โดยพัฒนาศักยภาพคน กลุ่มอาชีพ กลุ่มสัมมาชีพ และเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนที่มีศักยภาพ ให้สามารถเข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เท่าทัน จนสามารถสร้างกิจกรรมนวัตกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพตนเอง ให้สามารพัฒนาการผลิตสินค้าจากทรัพยกรณ์ในชุมชน และสามารถจัดการทรัพยากรณ์ชุมชนเพื่อการสร้างรายได้ร่วมกันได้ โดยอาศัยกลไกการพัฒนาความเข้มแข็งจากภายในของชุมชนด้วย ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills) 4 ด้าน หรือ 4Cs ให้เป็นชุมชนที่มีความรู้ทักษะจำเป็นเพื่อศตวรรษที่ 21 จนนำไปสู่การประเมินศักยภาพของกิจกรรมนวัตกรรมของตนเอง แล้วจัดทำเป็นคำขอความต้องการในแผนพัฒนาชุมชน ให้เห็นภาพศักยภาพเศรษฐกิจฐานรากและการจัดการทรัพยากรณ์ชุมชนที่จำเป็น ให้องค์การบริหารส่วนตำบล จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสรรงบประมาณมาพัฒนาต่อยอดให้ขยายวงกว้างต่อไป โดยนำเสนอแผนพัฒนาชุมชนไปสู่การจัดทำแผนพัฒนาตำบล จนกระทั่งแผนพัฒนาจังหวัดต่อไป เพื่อให้เป็นการนำเสนอความต้องการจากล่างสู่บน ที่มาจากความต้องการและสภาพปัญหาของชุมชนอย่างแท้จริง ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด คณะผู้วิจัยจึงได้เสนอแผนงานวิจัย การพัฒนาภายใต้ชุดโครงการ “การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยนวัตกรรม และการสร้างสรรค์ชุมชนพึ่งพาตนเอง ด้วยจัดทำแผนและประสานแผนพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชน ประสานสู่แผนพัฒนาพื้นที่ในระดับตำบลและจังหวัด One Plan” ด้วยแนวคิดจากระเบียบกระทรวงมหาดไทย “ว่าด้วยการจัดทำแผนและประสานแผนพัฒนาพื้นที่ในระดับอำเภอและตำบล 2562” ในพื้นที่เป้าหมาย 10 ตำบล 10 ชุมชน มีทุนการทำงานเดิมในการทำงานวิจัยเพื่อพัฒนาสังคม พื้นที่และชุมชนท้องถิ่น และ/หรือ นโยบายในการขับเคลื่อนการทำงานของคณะนักวิจัยมาแล้ว และเป็นพื้นที่มีต้นทุนเศรษฐกิจฐานรากที่มีศักยภาพแต่ยังไม่ได้รับการผลักดันไปสู่แผนพัฒนาจังหวัดเพื่อต่อยอด
โดย สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มย่อย

  1. กลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ
  2. กลุ่มพัฒนานวัตกรรการประมง
  3. จัดการทรัพยากร์น้ำจากชลประทานร่วมกัน
  4. กลุ่มพัฒนามาตรฐานและศักยภาพสินค้าที่มีศักยภาพ ที่มาจากทรัพยากรชุมชน

Title

Local Economy development by innovation and Creating a self-reliant community with One Plan

Keywords

Local economy,innovation,one plan

Abstract

สำหรับสมาชิกเท่านั้น