บพท.อัดฉีดทุนวิจัยหนุน มจธ.พัฒนาชุดความรู้สร้างนวัตกรรมการศึกษา-นวัตกรเชิงวัฒนธรรม เสริมสร้างรายได้ สร้างอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์จังหวัดราชบุรี และจังหวัดชายขอบ
เมื่อระหว่างวันที่ 17 – 18 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำโดย รศ.ดร.อุเทน คำน่าน รองผอ. บพท. ฝ่ายบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรม พร้อมสื่อมวลชน เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมชมและรับฟังผลการดำเนินงานโครงการวิจัยการพัฒนาการเรียนรู้ สมรรถนะฐานอาชีพ สำหรับนักเรียนด้อยโอกาสและนวัตกรรมเชิงระบบเพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในโรงเรียนชายขอบ จังหวัดราชบุรี ณ โรงเรียนกลุ่มนักข่าวหญิง 2 บ้านบ่อหวี อำเภอสวนผึ้ง และโครงการขับเคลื่อนศิลปะและวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ของชุมชนชาติพันธุ์ไทยกะเหรี่ยงบริเวณแถบเทือกเขาตะนาวศรี จังหวัดราชบุรี ณ หมู่บ้านโป่งกระทิงบน ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นโครงการวิจัยที่ดำเนินการโดยคณาจารย์นักวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยจาก หน่วย บพท.
โดย ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษาอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้กล่าวถึงโครงการวิจัยการพัฒนาการเรียนรู้ สมรรถนะฐานอาชีพ สำหรับนักเรียนด้อยโอกาสและนวัตกรรมเชิงระบบ เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในโรงเรียนชายขอบ จังหวัดราชบุรี ซึ่งได้กำหนดพื้นที่วิจัยครอบคลุม 6 อำเภอ ของจังหวัดราชบุรี ได้แก่ สวนผึ้ง, บ้านคา, จอมบึง, บ้านโป่ง, โพธาราม และอำเภอเมือง ที่ได้ริเริ่มดำเนินการตั้งแต่ในช่วงที่โรคโควิด-19 มีการแพร่ระบาด ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเรียนการสอนในโรงเรียน ทำให้นักเรียนขาดโอกาสทางการศึกษา โดยคณะนักวิจัยได้ค้นคว้าวิจัยแสวงหาแนวทางและเครื่องมือที่จะแก้ปัญหาก้าวข้ามข้อจำกัดและอุปสรรค เพื่อทำให้นักเรียนสามารถเข้าถึงการศึกษาได้
นอกจากนี้ นายศุเรนทร์ ฐปนางกูร ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุน มูลนิธิโครงการหลวงและโครงการตามพระราชดำริ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้อธิบายชี้แจงเพิ่มเติมเรื่องแนวทางในการพัฒนา อศม. หรืออาสาสมัครเพื่อการศึกษาประจำหมู่บ้าน ที่นับเป็น “นวัตกรรมอาสาสมัครการศึกษา” สามารถแก้ไขปัญหานักเรียนตกหล่นทางการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างได้ผล ด้วยการประยุกต์แนวความคิดมาจากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.ในระบบสาธารณสุข โดยคณะวิจัยมีกระบวนการในการคัดสรรบุคคลจิตอาสา ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นที่ยอมรับนับถือของชุมชน เข้าไปรับการอบรมทักษะการถ่ายทอดวิชาความรู้ เพื่อไปทำหน้าที่ อศม. โดยให้ทำหน้าที่เป็นเสมือนครูช่วยสอนให้แก่นักเรียนภายในหมู่บ้าน รวมถึงการพัฒนาสื่อช่วยสอน และเครื่องมือช่วยสอนสำหรับ อศม.ด้วยการพัฒนาหลักสูตรที่มีทั้งวิชาการ และวิชาชีพที่สอดคล้องกับบริบทชุมชน บันทึกไฟล์เสียงใส่ทรัมป์ไดร์ฟ สำหรับไปถ่ายทอดสู่การรับรู้ของผู้เรียน ผ่านวิทยุทรานซิสเตอร์ เพิ่มความสะดวกกับผู้เรียนเพราะเป็นพื้นที่ชายขอบอาจจะมีข้อจำกัดเรื่องสัญญาณอินเตอร์เน็ตและระบบไฟฟ้า ซึ่งได้ผลดีเยี่ยม
ในส่วนของ ผศ.นันทนา บุญลออ นักวิจัยโครงการวิจัยว่าด้วยทุนทางวัฒนธรรมฯ กล่าวว่า การสนับสนุนทุนวิจัยจาก บพท. ทำให้เกิดการเชื่อมโยงโรงเรียน-ชุมชน-ครัวเรือนเข้าด้วยกัน โดยมุ่งเน้นสนองความต้องการของชุมชน สอดคล้องกับเศรษฐกิจชุมชน ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ในชุมชน เกิดผู้นำการเปลี่ยนแปลงหรือนวัตกรชุมชน นวัตกรเชิงวัฒนธรรม นักจัดการข้อมูลวัฒนธรรมของพื้นที่ เกิดศูนย์เรียนรู้ศิลปะการย้อมสีธรรมชาติและหัตถกรรมผ้ากะเหรี่ยง ศูนย์เรียนรู้หัตถกรรมการตีเม็ดเงินกะเหรี่ยง ศูนย์เรียนรู้การขึ้นรูปภาชนะจากใบไม้และเส้นใยธรรมชาติ ตลาดวิถีวัฒนธรรม อีกทั้งยังสนับสนุนให้นักเรียนมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างโลก ความเป็นจริงที่สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปได้
การนี้ รศ.ดร.อุเทน คำน่าน รองผู้อำนวยการ บพท. กล่าวโดยสรุปถึงการเยี่ยมชมโครงการทั้ง 2 ว่า “โครงการวิจัยทั้ง 2 โครงการ มีบทบาทอย่างสูงในการแก้ปัญหานักเรียนตกหล่นกลางคันและเพิ่มสำนึกรักษ์ท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ด้วยการส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะความรู้ทางวิชาการและยังเสริมทักษะด้านอาชีพ บนพื้นฐานในด้านการจัดการบนฐานทุนวัฒนธรรมและทรัพยากรในท้องถิ่นแก่ทั้งตัวนักเรียนรวมไปถึงผู้ปกครอง โดยทั้ง 2 โครงการมีความเชื่อมโยงกันอย่างมีเป้าหมายสำคัญที่มุ่งหวังจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นแก่ชุมชนในพื้นที่ชายขอบ ด้วยการใช้ชุดความรู้จากงานวิจัยไปออกแบบเนื้อหาหลักสูตรการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ และการประยุกต์ฐานทุนทางวัฒนธรรมดั้งเดิม ตลอดจนทรัพยากรในพื้นที่ มาสร้างมูลค่า สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ที่มีความมั่นคง ยั่งยืน”


















