เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 67 หน่วย บพท. นำโดยคุณฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการบริหารหน่วย บพท. พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหาร ผู้บริหาร หน่วย บพท. ผู้ทรงคุณวุฒิ และนักวิจัย 7 มหาวิทยาลัย เยี่ยมชมศูนย์การค้าเครื่องเทศฝูต้า เมืองยวี่หลิน โดยมี คุณจาง ไห่เผิง กรรมการประจำคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์และรองนายกเทศมนตรี คุณผัง อวี้ เหมย รองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ฯ และคณะ ให้การต้อนรับและพาเยี่ยมชมภายในศูนย์การค้าซึ่งจัดแสดงนิทรรศการแสดงความเป็นมาของการก่อตั้งศูนย์การค้าเครื่องเทศและโลจิสติกส์ ซึ่งมีการลงทุนกว่า 2,000 ล้านหยวน ปัจจุบันเป็นศูนย์การค้าเฉพาะด้านเครื่องเทศของจีน มีการซื้อขายเครื่องเทศสูงถึง 80% ของจีน ปีที่ผ่านมามียอดซื้อขายกว่า 3,200 ล้านหยวน ปี 2567 คาดการณ์ว่าจะถึง 3,500 ล้านหยวน ในศูนย์การค้ามี 789 ร้านค้า ผู้ประกอบการเข้าร่วมแล้วกว่า 700 ร้านค้า แบ่งโซนศูนย์การค้าและการขนส่ง โดยศูนย์การค้าเป็นอุตสาหกรรมเครื่องเทศขนาดใหญ่และเป็นแหล่งสำคัญลำดับที่ 1 ของจีน และเป็นลำดับที่ 3 ของโลก ด้วยเครื่องเทศมีความพันธ์กับวิถีชีวิตและอาหารการกินของคนจีน และเมืองยวี่หลินยังมีสภาพพื้นที่ที่มีความเหมาะสมที่จะเพาะปลูกเครื่องเทศ โดยเฉพาะอบเชย โป๋ยกั๊ก รวมถึงไม้กฤษณาที่มีปริมาณการผลิตกว่า 1 แสนตันต่อปี คิดเป็น 90% ของจีน และ 85% ของโลก โดยเกษตรกรในประเทศจีนจะส่งผลผลิตมายังศูนย์รวบรวมเครื่องเทศฝูต้าซึ่งเป็น World Spices Capital กระจายเครื่องเทศกว่า 160 ชนิดไปยังทุกมุมโลก รวมถึงเชื่อมโยงกับไทยโดยนำเข้าเครื่องเทศ เช่น ตะไคร้ กระชาย มีมูลค่ากว่า 2,000-3,000 ล้านหยวนต่อปีอีกด้วย
ต่อมาคณะศึกษาดูงานได้เข้าพบคณะผู้บริหารเมืองยวี่หลินเพื่อประชุมแลกเปลี่ยนหารือความร่วมมือระหว่างกัน โดยได้กล่าวถึงบทบาทสำคัญของเมืองยวี่หลิน ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมเครื่องยนต์สันดาปภายใน และเป็นฐานการผลิตและส่งออกเซรามิก ทั้งยังเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญที่เชื่อมโยง GBA (Greater Bay Area) และเขตเศรษฐกิจอ่าวเป่ยปู้กว่างซี และเป็นจุดกระจายสินค้าที่สำคัญในภาคใต้ของจีน พื้นที่มีศักยภาพในด้านการเพาะปลูก วิจัยและพัฒนาสมุนไพรจีน จึงเป็นเมืองที่มีจุดเด่นด้านยาสมุนไพรจีนและเครื่องเทศในภาคใต้ของจีน นอกจากนี้ยังกล่าวถึงมิติความสัมพันธ์ของเมืองยวี่หลินกับประเทศไทยว่ามีการแลกเปลี่ยนทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม การศึกษา และด้านอื่น ๆ โดยเมืองยวี่หลินและจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย ได้สถาปนาความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง และอำเภอหรง (Rong County) ของเมืองยวี่หลินกับอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ได้มีการสถานปนาความสัมพันธ์ร่วมกัน ซึ่งเริ่มต้นจากการอพยพของชาวจีนในเมืองยวี่หลินในอดีตที่เป็นกลุ่มชาวจีนกลุ่มใหญ่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในอำเภอเบตงซึ่งกลายเป็นกลุ่มคนที่มีส่วนในการขับเคลื่อนการเติบโตของเมืองเบตงอีกด้วย
.
นอกจากนี้ที่ประชุมยังหาจุดร่วมและมองเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความยากจนร่วมกัน โดยกล่าวถึงความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาความยากจนของจีนที่เห็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม และมุ่งหวังสร้างความร่วมมือกันจากความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ของไทย ที่มีความพร้อมพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมและโลจิสติกส์ทางน้ำที่สามารถเชื่อมโยงกับสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ และจีนเองก็มีความพร้อมที่สามารถกระจายสินค้าผ่านระบบขนส่งทางน้ำ หรือด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจรในเขตฯ กว่างซีจ้วง ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมต่อด้านเศรษฐกิจในอนาคต อีกทั้งเป็นสะพานเชื่อมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน และผลักดันความร่วมมือเชิงปฏิบัติในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมร่วมกันระหว่างประเทศไทยและเมืองยวี่หลิน เขตปกครองตนเองกว่างซี-จ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไปในอนาคต
.
จากนั้นผู้บริหารเมืองยวี่หลินนำคณะศึกษาดูงานเดินทางไปยังศูนย์การค้าสมุนไพรจีนหยิงเฟิง ซึ่งเป็นศูนย์การค้าสมุนไพรที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยมี คุณหลิน ก่างเหลียง ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท Yulin Fuda Flavours Co., Ltd. Lin Gangliang พาเยี่ยมชมศูนย์การค้าฯ ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2009 เป็นทั้งอุตสาหกรรมสมุนไพรทางการแพทย์ขนาดใหญ่ของจีนและศูนย์กลางรวบรวมสมุนไพรจากเกษตรกร ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้าจากทั่วประเทศจีน มีทั้งผู้ประกอบการผลิตสมุนไพรเองและเป็นพ่อค้าคนกลางรับซื้อสมุนไพรจากเกษตรกรมาจำหน่าย ภายในศูนย์ฯ มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร 4,000 ชนิด ผู้ประกอบการร้านค้ากว่า 3,000 ร้าน โดยกระจายสินค้าแบบค้าส่งไปทั่วประเทศจีนและส่งออกต่างประเทศ ทั้งนี้ศูนย์การค้าฯ มีการเชื่อมโยงห่วงโซ่สมุนไพร นับตั้งแต่กระบวนผลิตปลูก การรับซื้อผลผลิตสมุนไพรจากเกษตรกรในชุมชน การแปรรูปสมุนไพรอย่างใจใส่สิ่งแวดล้อม การเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมทางการแพทย์ซึ่งได้รับการรองรับจากกระทรวงสาธารณสุขแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และกรมเกษตรและกิจการชนบท สู่ตลาดเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่อีกด้วย โดยในปี 2022 มีรายได้จากการจำหน่ายสมุนไพรกว่า 20 พันล้านหยวน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.stsbeijing.org/contents/45162