บพท. จับมือร่วม มช. MOU ประสานความร่วมมือ ทางวิชาการและการพัฒนาบริการสุขภาพปฐมภูมิ กับ 4 อปท. จ.ลำพูน เพื่อยกระดับการเข้าถึงการบริการที่มีคุณภาพของชุมชนท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 68 หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) นำโดย ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผอ.บพท., รศ.ดร.วีระศักดิ์ เครือเทพ ผอ.ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและยกระดับขีดความสามารถในการจัดการภาครัฐและท้องถิ่น และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.สาคร พรประเสริฐ คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์, รศ.ดร.วราภรณ์ บุญเชียง คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ และ รศ.ดร.อรัญญา ศิริผลจากคณะสังคมศาสตร์ หัวหน้าโครงการวิจัย การพัฒนาขีดความสามารถการให้บริการสุขภาพและสาธารณะแก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยและผู้มีภาวะพึ่งพิงของ 5 องค์กรปกครองท้องถิ่นระดับตำบล ในอำเภอเมือง จ.ลำพูน พร้อมด้วย คณะผู้บริหารเทศบาล ต.เวียงยอง, ต.เหมืองจี้, ต.บ้านแป้น, นายก อบต.หนองหนาม ร่วมจับมือเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ข้อตกลงทางวิชาการและบริการสุขภาพข้ามองค์กร เพื่อยกระดับสุขภาวะและตอบสนองความต้องการของชุมชมชนท้องถิ่น ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลเวียงยอง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน

ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวอช.)  กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า มิติด้านสุขภาพชุมชนมีความสำคัญอย่างมาก โดยมีกรอบกฎหมายระบบสุขภาพปฐมภูมิ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และกฎหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่กำหนดภารกิจรับผิดชอบของ อปท. อย่างกว้างขวาง และหน่วย บพท. มีแผนงานขับเคลื่อนที่สำคัญคือ การขจัดปัญหาความยากจน การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การพัฒนาเมือง และยกขีดความสามารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยใช้วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อสร้างการพัฒนาในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และกระจายโอกาสและความเจริญ โดยในพื้นที่เทศบาลตำบลเวียงยอง จ.ลำพูน เป็นพื้นที่นำร่องในการพัฒนาระบบ “ฮับส่งโฮงยา” และการขยายผลไปสู่ “ยืม-คืนกายอุปกรณ์การแพทย์” ภายใต้การดำเนินงานร่วมคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมี รศ.ดร.อรัญญา ศิริผล เป็นหัวหน้าโครงการ ในการสร้างระบบบริการใหม่ เพื่อเพิ่มช่องทางในการขอรับบริการรับส่งผู้ป่วยจากที่พักไป รพ. ตามที่แพทย์นัดหมาย โดยมีระบบการจองเวลาและการยืนยันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จัดเตรียมรถและบุคลากรเฉพาะที่ได้รับใบอนุญาต ในการช่วยเหลือและยกระดับการเข้ารับบริการสุขภาพของคนในท้องถิ่นอย่างมาก ช่วยให้ครัวเรือนกลุ่มเปราะบางเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ทั่วถึงและต่อเนื่อง และช่วยลดรายจ่ายครัวเรือนได้เป็นอย่างมาก

“ในนาม บพท. รู้สึกปิติยินดี กับคณะนักวิจัยและเทศบาลตำบลเวียงยอง ที่ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนให้เกิดกลไกปฏิบัติการใหม่ของเทศบาล ในการดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึงและช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ จนสามารถขยายผลไปสู่การให้บริการรับส่งผู้ป่วยครอบคลุมใน 4 พื้นที่ อปท.  โดยพื้นที่นำร่อง อ.เมืองยอง ให้บริการประชาชนไปแล้วจำนวน 275 ราย ลดรายจ่ายครัวเรือนได้มากกว่า 5 แสนบาทต่อปี ช่วยเหลือครัวเรือนที่มีความยากลำบากให้ได้รับการดูแลด้านสุขภาพอย่างทั่วถึงและมีสถานะทางด้านสุขภาพดีมากขึ้น การลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) นี้ จึงถือเป็นมุดหมายสำคัญในการสนับสนุนทางวิชาการและการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพและกลไกใหม่ของ อปท. ในการดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง ตามกรอบภายใต้แผนงานนโยบายของกระทรวง อว. ต่อการส่งเสริมและสนับสนุนบทบาทความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการสร้างการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่ยั่งยืนสืบต่อไป

ด้าน ศาตราจารย์ ดร. สาคร พรประเสริฐ คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวถึง บทบาทความร่วมมือทางวิชาการเพื่อยกระดับสุขภาวะของชุมชนท้องถิ่น ไว้ว่าคณะเทคนิคการแพทย์ มช. จะใช้ความถนัดด้านวิชาชีพในเข้าช่วยเหลือสังคมและชุมชนอย่างเต็มที่ เพื่อนำมาปรับใช้ในแนวทางการศึกษาอย่างแท้จริง ด้วยบทบาทหน้าที่ของคณะเทคนิคการแพทย์ที่มุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้และบุคลากร ในการปฏิบัติงานทั้งภาคสนามและการทำวิจัยในชุมชนเพื่อยกระดับเสริมบริการสุขภาพ และพร้อมทำหน้าที่ให้คำแนะนำแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ร่วมกับ อปท. 4 แห่ง และสนับสนุนกิจกรรมบริการชุมชน อำนวยความสะดวกในการออกปฏิบัติงานชุมชนในแต่ละครั้ง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทั้งสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ รพ.สต. เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน

          “การเข้าร่วมโครงการ MOU นี้ มช.เป็นหน่วยงานทางวิชาการ มหาวิทยาลัยชุมชน คณะฯ พยายามสร้างลูกหลานของเราให้กลับไปรับใช้ชุมชน โดยเฉพาะสังคมในภาคเหนือ อยากส่งเสริมให้เกิดกลไก หนึ่งศูนย์ฟื้นฟู หนึ่งนักกายภาพบำบัดหรือนักกิจกรรมบำบัดขึ้น ซึ่งตอนนี้ชุมชนมีการใช้แอพพลิเคชั่นจากโครงการวิจัยนี้เข้ามา ก็ยิ่งสามารถทำให้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน และระหว่างบุคลากรกับผู้ป่วยที่ต้องการเข้ารับบริการสุขภาพได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย”

โดย รศ.ดร.อรัญญา ศิริผลคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวถึง ที่มาการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 3 ฝ่าย ผ่านโครงการวิจัยระบบปฏิบัติการ “ฮับส่งโฮงยา” (Med Car Hub) ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต จะลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพแก่ชาวบ้าน และสามารถสร้างนวัตกรชุมชนด้านสุขภาพได้ถึง 10 คน มีระบบนัดหมายและให้บริการรถรับส่งผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ผู้พิการ และผู้มีภาวะพึ่งพิงไปยังสถานบริการทางการแพทย์ในกรณีไม่ฉุกเฉิน ที่รถฉุกเฉิน 1669 ไม่สามารถรองรับบริการให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้

จากจุดเริ่มต้นโครงการในปี 2567 มีผู้สูงอายุและกลุ่มที่มีภาวะพึ่งพิงใช้บริการรวมทั้งสิ้น 177 คน จำนวน 521 ครั้ง คิดเป็นมูลค่าค่าใช้จ่ายที่ครอบครัวประหยัดได้ 358,100 บาท และในปี 2568 (มค-มิย 2568) นี้ มีผู้ใช้บริการ 98 คน จำนวน 314 ครั้ง ครอบครัวประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีก 118,700 บาท ซึ่งปัจจุบันมีผู้ขอใช้บริการ “ฮับส่งโฮงยา” รวมทั้งสิ้นแล้ว 275 คน แบ่งเป็น กลุ่มที่พึ่งพาตัวเองได้ 164 คน และกลุ่มที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ 111 คน ลดค่าใช้จ่ายครัวเรือนผู้มาใช้บริการ 476,800 บาท เมื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่าของโครงการฯ ในงบประมาณเพื่อดูแลประชาชนมีการใช้จ่ายจริงน้อยกว่าค่าใช้จ่ายที่ประชาชนต้องจ่ายด้วยตนเองถึง 130,648.53 บาท ถือว่าเป็นการใช้งบประมาณของเทศบาลที่เกิด “ความคุ้มค่า” ชัดเจน ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว สนับสนุนให้ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง

ความสำเร็จจากการประยุกต์ใช้ระบบปฏิบัติการหรือแอปพลิเคชัน “ฮับส่งโฮงยา” ของเทศบาลตำบลเวียงยองจึงเป็น “ต้นแบบ” ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้สะดวกและปลอดภัย ลดภาระค่าใช้จ่ายและปัญหาการเดินทาง โดยมีเครือข่ายแต่ละ อปท. ส่งเสริมสนับสนุนและปรับรูปแบบการบริการให้เหมาะสมกับบริบทชุมชน และการดำเนินงานระบบปฏิบัติการ “ยืม-คืนกายอุปกรณ์การแพทย์” ทั้ง 4 ตำบล มีแรงหนุนเสริมจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้แก่ อปท. ผ่านการระดมทุนเพื่อจัดหาและหมุนเวียนอุปกรณ์การแพทย์ให้กับผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน มีเป้าหมายเพื่อยกระดับเป็น “ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้มีภาวะพึ่งพิง” ผ่านความร่วมมือทางวิชาการข้ามองค์กรระหว่าง คณะเทคนิคการแพทย์ คณะสังคมศาสตร์ และคณะสาธารณสุขศาสตร์ มช. นำไปสู่เป้าหมายสำคัญในการขยายผลองค์ความรู้และความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ครั้งนี้ขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสุขภาพ และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่าย อปท. ท้องถิ่น แก่ผู้รับบริการสุขภาพทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วยและผู้มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่ จ.ลำพูน ด้วยการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพของชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป

สำหรับพิธีลงนามนี้ เป็นการประสานความร่วมมือทางวิชาการและการบริการสุขภาพตามนโยบายของรัฐบาล มุ่งเน้นให้มีการสนับสนุนและประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมและขยายความร่วมมือทางวิชาการและบริการสุขภาพข้ามองค์กร ระหว่างหน่วยงานภาควิชาการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ หรือ บพท. เพื่อส่งเสริมและปฏิรูประบบสุขภาพรวมถึงการเพิ่มทักษะด้านวิชาการและการให้บริการของบุคลากร ตลอดจนเสริมสร้างศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้เป็นกลไกเชื่อมโยงและสนับสนุนการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชนและท้องถิ่น สร้างมาตรฐานองค์กรสมรรถนะสูงในการขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่และยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมสุขภาวะของประชาชนอย่างยั่งยืน โดยเน้นให้ประชาชนมีสุขภาวะทั้งด้านร่างกาย ด้านสังคมและประโยชน์สูงสุดของชุมชนท้องถิ่นต่อไป

โดยมีหน่วยงานภาควิชาการระหว่างคณะเทคนิคการแพทย์ คณะสังคมศาสตร์ และคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ผู้สนับสนุนทุนโครงการวิจัยครั้งนี้ ในการขยายผลและนำข้อมูลในพื้นที่นำร่องไปกำหนดทิศทางเชิงนโยบายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความร่วมมืออย่างต่อเนื่องและยั่งยืนภายใต้กรอบและเป้าหมายที่กำหนดร่วมกันในอนาคต

สถิติการเข้าชม